รายชื่อโรงพยาบาลสัตว์

     วันนี้ดินแนะนำโรงพยาบาลสัตว์  เผื่อเพื่อนจะได้พาเจ้าหมาน้อยทั้งหลายไปรักษาตอนเค้าไม่สำบายยยย

1.โรงพยาบาลสัตว์ สุวรรณชาด สะพานสูง โทร 02 729 5706-8
2.โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โทร 02 251 8938, 02 218 9715,
    02 218 9750-5
3.โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน โทร 02 942 8756-59
4.โรงพยาบาลสัตว์ บ้านหมอรักหมา แจ้งวัฒนะ โทร 02 575 3370-1
5.โรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพ-นนทบุรี โทร 02 965 1442-3, 02 642 1299
6.โรงพยาบาลสัตว์ ไกเซอร์ บางซื่อ โทร 02 585 7648
7.โรงพยาบาลสัตว ์ไกเซอร์ 2 รัตนธิเบศร์ โทร 02 594 3308
8.โรงพยาบาลสัตว์ ธนบุรี บุคคโล โทร 02 468 3472
9.โรงพยาบาลสัตว์ บางปะกอก โทร 02 428 2417
10.โรงพยาบาลสัตว์ ปทุมธานี โทร 02 975 7272-8
11.โรงพยาบาลสัตว์ สะพานใหม่ โทร 02 972 4737
12.โรงพยาบาลสัตว์ ประชาราษฎร์ โทร 02 527 5225, 02 527 5252
13.โรงพยาบาลสัตว์ พีเอส บางพลัด โทร 02 435 9129, 02 435 5980, 02 881 0235-6
14.โรงพยาบาลสัตว์ มหานคร ท่าพระ โทร 02 891 8377
15.   โรงพยาบาลสัตว์ หนองแขม โทร 02 808 3420-1
16.   โรงพยาบาลสัตว์ สุขสวัสดิ์ โทร 02 428 1443-4
17.   โรงพยาบาลสัตว์ บางปะกอก โทร 02 428 2417 
18.  โรงพยาบาลสัตว์ ลาดปลาเค้า โทร 02 570 6060, 02 570 5939  
19.โรงพยาบาลสัตว์ ศรีวราทาวน์อินทาวน์ โทร 02 530 7636-8
20.โรงพยาบาลสัตว์ ตลิ่งชัน โทร 02 448 6369, 02 887 8321-3
21.โรงพยาบาลสัตว์ เทพารักษ์ โทร 02 393 7351, 02 393 7560
22.โรงพยาบาลสัตว์ บางพลี โทร 02 752 2223
23.โรงพยาบาลสัตว์ นครินทร์ โทร 02 321 4468, 02 321 9830
24.โรงพยาบาลสัตว์ บางกะปิ โทร 02 374 6349
25.โรงพยาบาลสัตว์ สุขุมวิท 49 โทร 02 392 0291
26.โรงพยาบาลสัตว์สวนสัตว์ ซ.อ่อนนุช โทร 02 331 8146
27.โรงพยาบาลสัตว์ โรจน์นิรันดร์ อุดมสุข 60 (สุขุมวิท103) โทร 02 746 5370-1
28.โรงพยาบาลสัตว์ ทองหล่อ โทร 02 712 6301-4
29.โรงพยาบาลสัตว์ เจริญสุข เอกมัย โทร 02 391 9707, 02 391 6469
30.โรงพยาบาลสัตว์ พัฒนาการ 30 โทร 02 319 2360, 02 719 5925
31.โรงพยาบาลสัตว์ อ่อนนุช โทร 02 311 1055, 02 311 6719
32.โรงพยาบาลสัตว์ ซ. อารีย์ โทร 02 271 3188
33.โรงพยาบาลสัตว์ ถ. สุโขทัย สวนจิตร โทร 02 243 0587
34.โรงพยาบาลสัตว์ ราชวิถี โทร 02 243 5011
35.โรงพยาบาลสัตว์ เอ็น พี ศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์ โทร 02 377 3764
36.โรงพยาบาลสัตว์ แฮปปี้แลนด์ โทร 02 378 0992
37.โรงพยาบาลสัตว์ บางกะปิ โทร 02 374 6349
38.โรงพยาบาลบ้านสัตว์เลี้ยง 1 สุขาภิบาล 1 โทร 02 944 8715
39.โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง บางบอน โทร 02 895 3048-9
40.โรงพยาบาลสัตว์ ฮาเลลูยา โทร 02 899 7070
41.โรงพยาบาลบ้านสัตว์เลี้ยง 2 สำโรงเหนือ โทร 02 759 1553
42.โรงพยาบาลสัตว์ มาลีวัลย์ คลอง 2 โทร 02 996 2662
43.โรงพยาบาลสัตว์ แมวหมาร่าเริง โทร 02 9644288-9
  

ฝึกให้สุนัขถ่ายเป็นที่

ขั้นตอนการฝึกให้สุนัขถ่ายเป็นที่

1. หลังจากการกินอาหาร ดื่มน้ำ เล่น หรือตื่นนอน
มักเป็นเวลาที่ลูกสุนัขจะถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ ลูกสุนัขเล็กๆ อาจถ่ายทุก
2-3
ชั่วโมง
2. เมื่อลูกสุนัขรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ
มักจะดมกลิ่นบนพื้น บางตัวอาจดมพื้นแล้ววิ่งวนไปรอบๆในเวลาเดียวกัน
ซึ่งจะต้องรีบนำลูกสุนัขไปยังที่ที่จัดไว้ให้ลูกสุนัขถ่ายทันที


3. วางลูกสุนัขลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ดูดซับได้ดี
นอกจากนี้ยังมีราคาถูกและหาง่าย
การเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์ควรเหลือแผ่นเก่าไว้บ้าง
เพื่อให้ลูกสุนัขจำกลิ่นและถ่ายที่เดิมอีก


4. เมื่อลูกสุนัขขับถ่ายบนกระดาษแล้ว
เจ้าของควรแสดงความชื่นชมสุนัข ถ้าสุนัขไปถ่ายในบริเวณอื่น ก็ไม่ต้องลงโทษ
หรือจับสุนัขไปดมสิ่งขับถ่ายที่อยู่บนพื้น
เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรและจะทำให้สุนัขกลัวเจ้าของ


สิ่งขับถ่ายบนพื้นบ้าน

ควรรีบทำความสะอาดโดยใช้ยาฆ่าเชื้อและยากำจัดกลิ่น
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสม เพราะอาจทำให้

ลูกสุนัขคิดว่าเป็นกลิ่นของมัน
 



การหัดให้ขับถ่ายนอกบ้าน

1. ลูกสุนัขที่เริ่มโตต้องหัดให้ขับถ่ายนอกบ้าน
เจ้าของจะต้องหมั่นสังเกตว่า สุนัขแสดงอาการอะไรก่อนการขับถ่าย

แล้วเปิดประตูบ้านให้สุนัขออกไป ต่อมาเมื่อปล่อยสุนัขออกไปขับถ่าย
จะเป็นช่วงเวลาที่สุนัขพอใจและเป็นนิสัย


2. พยายามให้สุนัขขับถ่ายในที่ห่างไกลจากตัวบ้าน
ซึ่งสุนัขมักจะถ่ายปัสสาวะตรงที่เดิมเสมอ


3. ปัสสาวะสุนัขเป็นกรด ซึ่งอาจทำให้หญ้าไหม้เป็นสีน้ำตาลหรือตายได้

การหัดให้ลูกสุนัขถ่ายตามเวลาและสถานที่ที่กำหนดให้
เป็นสิ่งที่ทำได้แต่ต้องใช้ความพยายามบ้าง

ดูยังไงว่าน้องหมาป่วย

ใบหน้า หัว หู และจมูกน้ำมูกเหนียวจากจมูกและตา หรือดวงตาไม่มีประกาย อาจเป็นสัญญาณของโรคได้ การติดเชื้อใน
หูอาจทำให้มีของเหลวหรือน้ำเมือกไหลออกมาจากโพรงหู
บางครั้งสุนัขจะเกาหูตลอดเวลา และอาจมีกลิ่นเหม็น หรือมีวัตถุสีดำออกมาจากช่องหู
อาจเป็นการติดเชื้อไรในหู จมูกของสุนัขที่แห้งหรือแตกเป็นสะเก็ดอาจเป็นอาการของโรค
แพราะปกติแล้วสุนัขจะมีจมูกที่ชุ่มชื่นอยู่เสมอ
ลำตัวความผิดปกติที่ขนสุนัข เช่น มีสีกระดำกระด่าง มีแผลฟกช้ำ สีขนเปลี่ยนไป หรือมีรอยบวมนูนเป็นแห่งๆ
ไม่เคยพบมาก่อนอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย
ซึ่งควรรีบให้สัตวแพทย์วินิจฉัยโดยด่วน เพราะรอยบวมช้ำหรือบวมน้ำ
อาจเป็นอาการของโรคเกี่ยวกับตับ หัวใจ ไต และเลือด โดยมีลักษณะเช่นเดียว
กับเนื้องอกระยะก่อตัว
ขาและเท้า
การที่สุนัขเดินโขยกเขยก ไม่สามารถเดินได้เต็มเท้า มีเลือดไหลจากแผล หรือมีการบวม
ที่เท้า ขา ล้วนเป็นอาการที่แสดงถึงการบาดเจ็บอาจมีเนื้อเยื่อฉีกขาดที่บริเวณกระดูก
ภายในบริเวณเท้าหรือขา
อวัยะสืบพันธุ์
ในสุนัขเพศผู้ หากอวัยวะเพศมีสีแดงและบวมผิดปกติมาได้ช่วงเวลาหนึ่งและ
ตัวสุนัขได้แสดงอาการไม่สบาย ควรปรึกษาสัตวแพทย์ หากมีเลือดไหลที่ปลาย
อวัยวะเพศ อาจเป็นสัญญานบอกถึงเนื้องอกในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ และต้องได้
รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ การบวมของถุงอัณฑะอาจบ่งบอกถึงอาการเนื้องอก
ในลูกอัณฑะ การติดเชื้อ การอักเสบจากการถูกแมลงสัตว์กัดต่อย และหากบริเวณ
ฐานลูกอัณฑะถูกยางรัดไว้เพื่อการทำหมันแล้วละก็ การผ่าตัดเพื่อเอาลูกอัณฑะ
ออกอาจเป็นสิ่งจำเป็น ในสุนัขเพศเมียที่ไม่ได้ตอน อาจมีเลือดไหลออกมาจาก
อวัยวะเพศได้เป็นครั้งคราวประมาณ 4 เดือนต่อครั้ง ทั้งนี้เพราะเป็นอาการของ
การเป็นสัดหรือพร้อยจะผสมพันธุ์ อาจมีอาการบวมที่อวัยวะเพศ ถ้าเกิดนานกว่า
2-3 สัปดาห์ หรือมีเนื้อเยื้อภายในยื่นออกมาจากอวัยวะเพศ ควรปรึกษาสัตวแพทย์
อุณหภูมิร่างกาย
อุณหภูมิปกติของร่างกายสุนัขคือ 101 - 102 ํF ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย
มนุษย์ 98.6 ํF ดังนั้นจึงค่อนข้างยากลำบากที่จะบอกได้ว่าสุนัขกำลังมีไข้หรือเปล่า
เพียงด้วยการสัมผัสร่างกายวิธีการที่แน่นอนคือการสอดเทอร์โมมิเตอร์แบบหล่อลื่น
เข้าไปทางทวารหนักซึ่งถ้ามีอุณหภูมิสูงกว่า 102.5 ํF แสดงว่าสุนัขตัวนั้นมีไข้
ความอยากอาหารสุนัขที่ป่วย หรือเริ่มป่วยจะกินอาหารน้อยลงหรือแทบไม่กินอาหารเลย และอาจ
ไม่ยอมกินน้ำด้วย แต่บางครั้งอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็ทำให้สุนัขกินอาหารน้อยลงได้
การอาเจียน
การที่สุนัขของคุณปัสสาวะลำบาก อุจจาระเหลว หรือมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะหรืออุจจาระ
อาจบอกได้ถึงความผิดปกติหลายอย่าง เช่น การติดเชื้อโรคต่างๆ เนื้อร้ายที่อวัยวะภายใน
และควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์
อารมณ์และการตอบสนอง
หากสุนัขไม่ตอบสนองเมื่อถูกเรียกชื่อ จำชื่อตัวเองไม่ได้ ดุร้าย หรือเห่ามาก อาจเป็นไปได
้ว่ามีความผิดปกติทองสมอง เช่น โรคเบื่ออาหาร หรือ โรคพิษสุนัขบ้า หากคุณพบหรือสงสัย
รีปปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณโดยด่วนสัตวแพทย์จะสามารถวินิจฉัยถึงวิธีรักษาที่ดีที่สุดแนะแนะนำคุณ
ถึงวิธีการควบคุมเชื้อโรคต่างๆไม่ให้แพร่กระจายไป
พยาธิภายใน
พยาธิทั่วๆไปที่พบในสุนัขมีหลายประเภทเช่น พยาธิตัวกลม , พยาธิเส้นด้าย , พยาธิแส้ม้า
, พยาธิปากขอ , พยาธิตัวตืด และพยาธิหนอนหัวใจ เป็นโรคที่อาจจะรบกวนสุนัขคุณโดยไม่ได้แสดงอาการ
ควรพาสุนัขไปรับการถ่ายพยาธิจากสัตวแพทย์เป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัขคุณ
โดยทั่วไปจะถ่ายพยาธิลำไส้ ทุกๆ 3 เดือน ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ทุกๆ 1-2 เดือน
โรคผิวหนัง
โรคผิวหนังและอาการแพ้ระคายเคืองในสุนัขเป็นของคู่กัน ตุ่มเล็กๆ ผื่นแดง หรือขนหลุดลอก
ปัญหาที่พบอยู่เสมอคือ เห็บ-หมัด ที่อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังกับสุนัขได้ การแปรงขนเป็นประจำ
และการให้อาหารที่มีคุณภาพก็อาจช่วยให้สุขภาพผิวของสุนัขอยู่เสมอ
สัญญาณของการป่วย
มีอาการหงอยเหงาเศร้าซึม , มีอาการเบื่ออาหารเป็นเวลานาน , อาเจียน , ท้องผูก
, หรือท้องร่วง , ตาฝ้า , มีไข้ ,ร่างกายขาดน้ำ อาจวัดอุณหภูมิโดยสอดเทอร์โมมิเตอร์ฉาบวาสลิน
เข้าไปในทวานหนัก 2 นาที อุณหภูมิปกติควรอยู่ที่ 101-102 F อย่าทดลองรักษาด้วยการใช้ยาสามัญประจำบ้าน
ที่ใช้กับคนเป็นอันขาด ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ของคุณโดยด่วน 

การให้ยา
หลังพบสัตวแพทย์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์โดยเคร่งครัด หากได้รับการฉีดยาจากสัตวแพทย์
จะต้องไม่อาบน้ำให้สุนัขเป็นเวลาอย่างน้อย 1 อาทิตย์
ยาเม็ด
วิธีง่ายที่สุดในการให้ยาเม็ดกับสุนัขคือการฝังยาเม็ดลงในอาหารหรืออาหารปรุงพิเศษต่างๆ อย่างไรก็ดี
สุนัขอาจไม่ยอมทานซึ่งคุณก็อาจจำเป็นต้องหยิบยามาป้อนใส่ปากด้วยมือตัวเอง จับส่วนปากของสุนัข
ให้มั่นอย่างอ่อนโยน บีบด้านข้างของปากเพื่อให้เขาเผยอปากให้กว้าง แล้วจับศีรษะเขาเงยขึ้น
และวางยาลงไปให้ลึกที่สุดในปากของเขาแล้วดันยาลงไปให้อยู่ด้านหลังลิ้น ปิดปากของเขา
เขย่าคอเล็กน้อยเพื่อช่วยเขาให้กลืนยาลงไป
ยาน้ำ
ค่อยๆ ดึงแก้มของสุนัขบริเวณมุมปากเพื่อให้เป็นร่อง ใส่ยาลงไปในร่องแล้วปิดปากเพื่อให้สุนัขกลืนยาลงไป
เงยหน้าของเขาเล็กน้อยและคอยระวังอย่าให้ยาลงไปในหลอดลม

ขอบคุณ  Doglove.com